[vc_row][vc_column][vc_column_text] มีสารปนเปื้อนที่ไม่ละลายน้ำหลายประเภทถูกพบในระบบไฮดรอลิกและระบบหล่อลื่น สารปนเปื้อนที่ไม่ละลายน้ำซึ่งวัสดุของมันจะไม่ละลายในน้ำมันด้วยเช่นกัน สารปนเปื้อนที่ไม่ละลายน้ำจำแนกออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ อนุภาคสิ่งสกปรก, เศษอนุภาคที่ถูกทำลายสึกกร่อน และ สิ่งปนเปื้อนที่อ่อนนุ่ม ซึ่งเป็นสาเหตุการเสื่อมสภาพของน้ำมัน สารเคลือบเงาและตะกอนเกิดจากสารปนเปื้อนที่อ่อนนุ่มมีลักษณะเป็นฟิลม์บาง ๆ ไม่ละลายน้ำและเกาะอยู่ภายในพื้นผิวของระบบหล่อลื่นอยู่ตลอดเวลา ตะกอนจะเป็นตัวเร่งกระบวนการเสื่อมสภาพของน้ำมันหล่อลื่น เมื่อสัมผัสอย่างต่อเนื่องกับอากาศ น้ำ ตัวเร่งปฏิกิริยา (อนุภาคโลหะ) และอุณหภูมิที่สูง การปนเปื้อนของตะกอนเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะนึกถึงเกี่ยวกับการปนเปื้อนของอุปกรณ์เครื่องมือระบบไฮดรอลิก อย่างไม่ต้องสงสัย ความจริงคือตะกอนมีอยู่ในระบบไฮดรอลิกและระบบลื่นทุกประเภท จากการกำหนดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตะกอนว่าเป็น “มลภาวะอ่อน ๆ” ไม่สามารถนำมาตรวจวัดได้ในการตรวจวิเคราะห์น้ำมันจึงทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่ตะหนักถึงการมีอยู่ของตะกอนภายในน้ำมัน การเกิดตะกอนอาจมีผลกระทบอย่างมาก ได้แก่ เพิ่มอัตราการสึกหรอสารเคลือบเงาที่เกิดจากการปนเปื้อนอย่างมากสร้างพื้นผิวที่มีฤทธิ์กัดกร่อนซึ่งเป็นตัวเร่งการสึกหรอของเครื่องจักร ลดประสิทธิภาพของเครื่องระบายความร้อนตะกอนจะเข้าไปติดตามท่อกลายเป็นชั้นฉนวนกันความร้อนและลดความเย็นในการแลกเปลี่ยนความร้อน ส่งผลให้ลดประสิทธิภาพการระบายความร้อนและส่งผลให้อุณหภูมิในการทำงานสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลให้ใช้พลังงานเพิ่มขึ้นและการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นในนำมันที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ไส้กรองหลักตันเร็วตะกอนเหนียวนั่นคือสารเรซิ่นและมันจะเข้าไปอยู่ด้านหลังของรูพรุนของไส้กรอง และทำให้ไส้กรองตันอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้นำไปสู่การลดลงของอัตราการไหล และมีแรงดันที่สูงขึ้น และส่งผลให้การขับเคลื่อนการทำงานที่ช้าลง เมื่อมีน้ำมันหมุนเวียนยากมากขึ้น อาจทำให้ปั๊มเกิดโพรงไอน้ำ สิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น และเครื่องจักรชำรุด ดังนั้น…